วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

'ISUZU' แบบฉบับความประหยัด จัดหนักอีก'คาราวานขับรถ1,312 กม.'

'ISUZU' แบบฉบับความประหยัด จัดหนักอีก'คาราวานขับรถ1,312 กม.'


บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ผู้นำด้านการจัดกิจกรรมการขับรถอย่างประหยัดน้ำมันในรูปแบบต่างๆ ทั้งเส้นทางในประเทศ? เส้นทางระหว่างประเทศ? และเส้นทางในต่างประเทศติดต่อกันมาถึง
เพราะนอกจากการใช้รถปิกอัพ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” ที่มีสมรรถนะความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมแล้ว ยังมี“อีซูซุอินไซท์” เทคโนโลยีสุดอัจฉริยะครั้งแรกในวงการรถยนต์เมืองไทยที่มีเฉพาะในอีซูซุเท่านั้นซึ่งช่วยพัฒนาพฤติกรรมการขับขี่ให้ดีขึ้น ปลอดภัยขึ้น และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการใช้น้ำมันทุกหยดอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด

โดยล่าสุดอีซูซุเพิ่มความท้าทายไปอีกขั้นด้วยระยะทางที่ยาวกว่าทุกครั้งไกลที่สุดเท่าที่เคยจัดมานั่นคือคาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน“อีซูซุอินไซท์ น้ำมันถังเดียว เที่ยวสุดแหลมมลายู” กระบี่ - ยะโฮร์บาห์รู ระยะทาง 1,312 กม.เส้นทางเริ่มต้นที่จังหวัดกระบี่จุดหมายคือสุดปลายแหลมมลายู ณ จัตุรัสหอนาฬิกา เมืองยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย ซึ่งห่างจากประเทศสิงคโปร์เพียงแค่ข้ามสะพานโดยยังคงเอกลักษณ์ของการพิสูจน์ความประหยัดน้ำมันในแบบฉบับของอีซูซุ นั่นคือ ผู้ใช้รถอีซูซุตัวจริง และรถ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” รวมทั้งสิ้น 8 คัน ครบรุ่น ครบเครื่องยนต์ ครบทุกระบบขับเคลื่อน ซึ่งรถทุกคันล้วนเป็นรถมาตรฐานโรงงานขับบนเส้นทางจริง เปิดแอร์ตลอดเส้นทาง ด้วยความเร็วเฉลี่ย 80-90 กม./ชม. แบบเดียวกับการขับในชีวิตประจำวัน และจะใช้น้ำมันเพียง 1 ถังเท่านั้น

ซึ่งฝาของถังน้ำมันที่เติมเต็มแล้วจะถูกซีลปิดด้วยสติ๊กเกอร์พิเศษที่มีลายเซ็นจากคณะกรรมการกำกับตั้งแต่วันแรกที่ออกเดินทาง และจะไม่ได้รับการเปิดออกจนกว่าจะถึงที่หมาย โดยมีคณาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ และสื่อมวลชนเป็นสักขีพยาน และร่วมเดินทางตลอดเส้นทางใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 3 วัน ระหว่างวันที่ 26-28 กรกฎาคม 2556 โดยแบ่งออกดังนี้

ช่วงที่ 1 : กระบี่-อาลอร์ เซตาร์ ระยะทาง 521 กม.? เริ่มต้นด้วยการเติมน้ำมันให้เต็ม 1 ถังและ ซีลปิดฝาถังน้ำมันท่ามกลางสักขีพยาน ณ โชว์รูม บริษัท อีซูซุอันดามันเซลส์ จำกัด สาขากระบี่ ก่อนขบวนจะใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสุราษฎร์ธานี พัทลุง นครศรีธรรมราช? ซึ่งเส้นทางภาคใต้ของไทยนั้นขึ้นชื่อในเรื่องความคดเคี้ยว เป็นทางขึ้น-ลงเขาต่อเนื่อง ก่อนไปพักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านคุณใหญ่ ทุ่งสง
จากนั้นเดินทางมุ่งหน้าสู่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลาซึ่งต้องฝ่าการจราจรที่ติดขัด เพราะบ่ายวันศุกร์เป็นวันที่มีรถเข้า-ออกด่านมากเป็นพิเศษ เพื่อเดินทางสู่เมืองอาลอร์ เซตาร์? เมืองหลวงของรัฐเคดาห์ และฝ่าการจราจรที่หนาแน่นเพราะเป็นช่วงเลิกงาน จนไปจบการเดินทางวันแรกที่โรงแรมฮอลิเดย์ วิลล่า อาลอร์ เซตาร์

โดยคณะกรรมการสักขีพยานได้เข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยของสติ๊กเกอร์บนจุดต่างๆ ของรถก่อนที่จะใช้สติ๊กเกอร์พิเศษซีลปิดประตู กระจก และเก็บกุญแจรถพร้อมซีลสติกเกอร์ไว้ เพื่อเป็นการยืนยันว่าจะไม่มีผู้ใดสามารถเข้าไปในรถได้อีกซึ่งในเดินทางวันแรกมามากกว่า 500 กม.แต่พบว่าเข็มน้ำมันของรถ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” ทั้ง 8 คันแทบจะไม่กระดิกเลย
ช่วงที่ 2 : อาลอร์ เซตาร์—ปุตราจายา ระยะทาง 470 กม.เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเดินทางสบายๆ ?หลังจากคณะกรรมการสักขีพยาน ตรวจดูความเรียบร้อยและกรีดสติ๊กเกอร์ที่ประตูและกระจก เพื่ออนุญาตให้เหล่านักขับได้เข้าไปประจำที่หลังพวงมาลัยอีกครั้งในเวลาประมาณ 08.00 น.แม้ว่าวันนี้จะใช้เส้นทางไฮเวย์ที่ดูเหมือนจะตัดตรง แต่ก็เป็นทางวิ่งขึ้น-ลงเขา และมีรถเจ้าถิ่นที่ใช้เส้นทางนี้หนาแน่นเป็นบางช่วง รวมทั้งต้องฝ่าการจราจรพลุกพล่านเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันในตัวเมือง

นอกจากนี้ระหว่างทางยังได้แวะที่จุดพักรถหลายต่อหลายช่วงเพื่อผ่อนคลายอิริยาบท ก่อนมุ่งหน้าสู่เมืองปุตราจายา? ศูนย์กลางเมืองราชการแห่งใหม่ของมาเลเซียที่ยิ่งใหญ่อลังการด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยแต่คงไว้ซึ่งศิลปะแบบมาเลเซีย ซึ่งวันนี้จบเดินทางที่โรงแรมแชงกรีล่า ปุตราจายา ซึ่งอยู่กลางใจเมืองตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการตรวจสอบสติกเกอร์ นักขับ และครอบครัวได้เดินทางไปชมสถานที่ต่างๆ อาทิ มัสยิดปุตรา หรือที่รู้จักกันในนาม มัสยิดสีชมพู? รวมถึงตึกรัฐสภาอีกด้วย
ช่วงที่ 3? : ปุตราจายา — ยะโฮร์บาห์รู? ระยะทาง 321 กม.?? ช่วงสุดท้ายของการเดินทางที่เหล่านักขับต่างขับมาด้วยความสบายใจ ด้วยปริมาณน้ำมันที่เหลืออยู่พร่องไปเพียงเล็กน้อยแม้ว่านักขับเกือบทุกคันจะแอบกระซิบว่าใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม. ตลอดหลายช่วงแล้วก็ตาม ลักษณะการเดินทางในวันนี้จะใกล้เคียงกับวันที่? 2? ด้วยใช้เส้นทางไฮเวย์ผ่านขุนเขามากมาย ก่อนจะตัดเข้าสู่เมืองยะโฮร์บาห์รู เมืองหลวงของรัฐยะโฮร์ เมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างเส้นทางขบวนต้องเผชิญกับปริมาณรถจำนวนมากที่ออกเดินทางในวันอาทิตย์

อย่างไรตามขบวนคาราวานก็เดินทางถึงจุดสิ้นสุด ณ จตุรัสหอนาฬิกา เมืองยะโฮร์บาห์รู ได้ตรงตามกำหนด โดยมีคณะผู้บริหารจากอีซูซุ ได้แก่ มร.ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ?? และคุณปนัดดา? เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด มารอต้อนรับความสำเร็จของคาราวาน “อีซูซุอินไซท์ น้ำมันถังเดียว เที่ยวสุดแหลมมลายู” กระบี่-ยะโฮร์บาห์รู ระยะทาง 1,312 กม.
ซึ่งผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสักขีพยานพบว่า รถทั้ง 8 คันมาถึงที่หมายโดยน้ำมัน 1 ถังยังเหลือๆ อีกทั้งไฟเตือนน้ำมันหมดยังไม่ปรากฎให้เห็น ซึ่งตอกย้ำความประหยัดน้ำมันของรถปิกอัพ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” ควบคู่ไปกับประสิทธิภาพการขับของผู้ขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี “อีซูซุอินไซท์”

มร.ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ เผยว่า แม้ว่าคาราวานประหยัดน้ำมันของอีซูซุ ในปีนี้จะยาวถึง 1,312 กม.ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลสุดเท่าที่อีซูซุเคยจัดมาแต่รถทุกคันมาถึงโดยที่น้ำมันยังเหลือประมาณ 1 ใน 4 ของถัง ซึ่งแสดงว่าเทคโนโลยีอัจฉริยะ “อีซูซุอินไซท์” หนึ่งเดียวของอีซูซุ ช่วยพัฒนาพฤติกรรมการขับขี่ของผู้ใช้รถอีซูซุทั้ง 8 ท่าน ซึ่งเป็นผู้ใช้รถปิกอัพรุ่นใหม่ของเราจริงในชีวิตประจำวัน และเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น ดังนั้นในปีหน้าผมมั่นใจว่าเราสามารถที่จะเดินทางด้วยน้ำมัน 1 ถังได้ไกลกว่านี้แน่นอน

ซี-ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์ เจ้าของสมญา “เจ้าหญิงไอที” ที่เดินทางมาสมทบกับขบวนคาราวานครั้งนี้ให้ความเห็นว่า “อีซูซุอินไซท์” เป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะปัจจุบันเราควรให้กับสำคัญมากๆ ?เรื่องพลังงาน และการประหยัดน้ำมัน “อีซูซุอินไซท์” นอกจากจะทำให้ผู้ขับขี่ได้อัพเกรดตัวเองไปกับเทคโนโลยีนี้แล้ว? ยังทำให้เราทุกคนได้ใส่ใจกับการประหยัดน้ำมันด้วยค่ะ
จากนั้นเจ้าหน้าที่อีซูซุได้ทำการดึงข้อมูลอินไซท์ของรถทั้ง 8 ?คันเพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ที่ส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันอันน่ามหัศจรรย์ในครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่การสตาร์ทเครื่องยนต์ การเหยียบคันเร่ง การใช้รอบเครื่องยนต์ การใช้ความเร็ว การเหยียบเบรก การจอดติดเครื่องอยู่กับที่ภาพรวมของคะแนนจะแสดงในรูปแบบของกราฟใยแมงมุม แสดงคะแนนพฤติกรรมการขับขี่ที่สำคัญทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ การใช้ความเร็ว และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง การเหยียบคันเร่ง การใช้รอบเดินเบา การใช้เบรก และรอบเครื่องยนต์ซึ่งถ้าผู้ขับขี่สามารถพัฒนาการขับขี่ทั้ง 5 ด้านได้ดีขึ้นจนได้คะแนนอีซูซุอินไซท์เต็ม 100 คะแนนจะช่วยให้สามารถขับได้อย่างประหยัดและปลอดภัยยิ่งขึ้น และหากผู้ใช้รถสามารถนำเทคนิคการขับประหยัดน้ำมันมาใช้เป็นแนวทางขับรถในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยประเทศชาติลดการใช้พลังงานน้ำมันอย่างได้ผลอีกด้วย
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแห่งความสำเร็จในคาราวานประหยัดน้ำมันครั้งนี้? อีซูซุได้นำผู้ขับพร้อมครอบครัวข้ามด่านต๊วส (TOUS) ซึ่งอยู่ในเมืองยะโฮร์บาห์รู เพื่อไปพักผ่อน และท่องเที่ยวในประเทศสิงคโปร์? โดยเข้าพักที่โรงแรมมาริน่า เบย์ แซนด์ส ศูนย์รวมความบันเทิงแห่งใหม่ในเอเชียที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณริมอ่าวมาริน่า เพลิดเพลินไปกับระเบียงลอยฟ้า "แซนด์ส สกายพาร์ค" (The Sands SkyPark) สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และแหวกว่ายในสระว่ายน้ำไร้ขอบยาว 150 เมตร ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งบนที่สูงที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนชั้น 57

นอกจากนี้ยังแวดล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของสิงคโปร์ อาทิ "สิงคโปร์ ฟลายเออร์" (Singapore Flyer) ชิงช้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มองวิวจากด้านบนจะเห็นทัศนียภาพอันงดงามของสิงคโปร์ และบริเวณศูนย์กลางการค้าย่านมารีน่าได้ทั่วทิศ 360 องศา แวะเวียนไปชมสวนพฤกษศาสตร์แห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ "Gardens by the Bay" แวะมาถ่ายรูปกับ
"เมอร์ไลออน" (Merlion) สัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์? และ "โรงละครเอสพลานาด" (Esplanade) หรือ ตึกทุเรียน ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของประเทศสิงคโปร์ ก่อนปิดท้ายด้วยการช้อปปิ้งบนถนนออชาร์ต

ผู้ใช้รถอีซูซุตัวจริงที่มาจากหลายหลายอาชีพ สามารถพัฒนาการขับขี่ให้ประหยัดและปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ? “อีซูซุอินไซท์” ที่ติดตั้งในรถปิกอัพ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” จนได้เป็นสุดยอดนักขับประหยัดน้ำมันที่มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์การประหยัดน้ำมันบนเส้นทางไกลสุดถึง 1,312 กม. ได้เผยความรู้สึกถึงความภาคภูมิใจ และเทคนิคการขับส่วนตัวไว้

เช่น รถหมายเลข 01 : รถปิกอัพ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” วี-ครอส 4 ประตู 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ เกียร์ออโตเมติก ที่แม้จะเป็นรถที่ดูเหมือนขับให้ประหยัดน้ำมันได้ยากที่สุดในรถ

ทั้ง 8 คันนั้น ?แต่ผู้ขับ คุณชนะ แสงโพธิ์แก้ว เจ้าของกิจการค้าส่งในกรุงเทพฯ กลับเป็นคนเดียวที่ทำคะแนน “อีซูซุอินไซท์” ได้ถึง 100 คะแนนเต็ม อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย 18.29 (กม./ลิตร)

“ผมเป็นลูกค้าอีซูซุมาตั้งแต่รุ่นมังกรทองจนมาถึง “ดีแม็ก” ทำให้ได้รู้จัก “อีซูซุอินไซท์” อย่างจริงจัง ซึ่งช่วยให้เราได้เรียนรู้การใช้รถอย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้มีพฤติกรรมการขับรถที่จะก่อให้เกิดการสิ้นเปลือง? สำหรับการเดินทางครั้งนี้ยอมรับว่าช่วงแรกยังกังวล เพราะระยะทางไกลกว่าทุกทริป แถมยังเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์ออโตเมติกอีกเลยเกรงว่าจะไปไม่ถึง แต่พอผ่านช่วงแรกดูเกจ์น้ำมันไม่ขยับก็เริ่มใจชื้น พอช่วงที่ 2 ขยับลงมาอีกหน่อยเพราะเป็นทางเขาสูงช่วงยาว แถมยังเจอรถท้องถิ่นที่ใช้ความเร็วสูงเข้ามาแทรกขบวน ทำให้ต้องใช้สมาธิเพื่อควบคุมจังหวะในการควบคุมรถ แต่พอมาถึงจุดหมายปลายทางน้ำมันยังเหลือเกือบขีด คราวนี้โล่งใจ? เราพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่า อีซูซุเป็นรถที่ดีมาก ประหยัดจริง? ซึ่งเทคนิคสำคัญของผมคือ การรักษารอบเครื่อง? ไม่ว่าจะเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโตเมติกก็ใช้ได้คล้ายๆ กัน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น