วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

2หนุ่มร้อง'ผบก.ชลบุรี' ตร.ภ.2ยิงมั่ว-นิสิตดับ ปส.แถลงผลงาน2คดี

2 หนุ่มที่อยู่ในรถฮอนด้า ซีวิค ที่ถูกตำรวจ ศพส.ภ. 2 ยิงถล่ม จน นศ.สาว ม.บูรพาเสียชีวิตคารถ ควงทนายเข้าพบตำรวจแล้ว ยืนยันไม่เคยเกี่ยวข้องยาเสพติดและไม่เคยมีปืน

แฉวันเกิดเหตุตำรวจ 2 นายขับรถมาปาดหน้าแล้วระดมยิงใส่จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ผบก.ภ.จ.ชลบุรี รับปากให้ความเป็นธรรม ให้สอบปากคำไว้แล้วปล่อยตัวไป รอรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วน ปส.นำของกลางคดีวิสามัญฯแก๊งยานรกกลางกรุงมาแถลงข่าว ทั้งเงินสด 2.3 ล้านบาท ยาบ้า 1.3 แสนเม็ด ปืน และหลักฐานเส้นทางการส่งยานรก อีกคดี ปส. ประสานตำรวจเนเธอร์แลนด์จับสาร “ซาฟรอล” เป็นสารตั้งต้นผลิตยาอีรายใหญ่ 12,078 กก. ใช้ผลิตยาอีได้ 2 ล้านเม็ด พร้อม 5 ผู้ต้องหา เป็นคนไทย 3 คน พม่า 1 คน และชาวจีนอีก 1 คน

กรณีตำรวจ บก.สกัดกั้นและลำเลียงยาเสพติด บช.ปส.ปะทะเดือดขบวนการค้ายานรก เครือข่าย พ.ท.ยี่เซ บริเวณเลียบคลองผดุงกรุงเกษมใกล้แยกเทวกรรม แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย หลังคนร้ายขับรถ ISUZU  MU-7 สีขาว ทะเบียน ค-7586 นครนายก เข้ามารับกล่องพัสดุที่ซุกซ่อนยาบ้า 148,000 เม็ด ยาไอซ์ 8 กก.ที่บริษัทนิ่มซีเส็ง ขนส่ง 1988 จำกัด เมื่อเที่ยงวันที่ 30 ก.ค. ผลปรากฏว่านายวริศนนท์ เริงกมล อายุ 32 ปี คนร้ายถูกยิงเสียชีวิต และนายพิเชษฐ์ ดอกไม้พุ่ม อายุ 37 ปีเพื่อนร่วมแก๊งได้รับบาดเจ็บ โดยภายในรถยังพบลูกชายวัยแค่ 3 เดือนของนายวริศน์นนท์ ที่รอดตายอย่างปาฏิหาริย์จากห่ากระสุนที่ยิงต่อสู้กันอยู่ภายในรถ นอกจากนี้ยังมี น.ส.สมฤดี หรือกิฟต์ วนะวนานต์ อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปี 4 คณะศิลปศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพาณิชยการพระนคร ถูกลูกหลงที่แก้มซ้ายได้รับบาดเจ็บ  แพทย์รักษาจนพ้นขีดอันตรายแล้ว

ความคืบหน้าจาก บช.ปส. เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 ส.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ รรท.ผบก.สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บช.ปส. และ พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ปส.1บช.ปส. นำของกลางยาบ้า 1.4 แสนเม็ด ยาไอซ์ 650 กรัม อาวุธปืน 3 กระบอก และอุปกรณ์จำนวนหนึ่ง กระสุนชนิดต่างๆ 600 นัด ตู้เชฟ 5 ตู้ และทองรูปพรรณจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดตรวจค้นได้จากที่พักหลายแห่งที่นายวริศน์นนท์ผู้ต้องหาที่ถูกวิสามัญฆาตกรรมเช่าไว้มาแถลงข่าว

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ บก.สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บช.ปส.นำโดย พล.ต.ต.ทนัย อภิชาติเสนีย์ ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านเช่าของนายวริศน์นนท์ เริงกมล เลขที่ 99/346 หมู่บ้านศุภาลัย ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบว่าเป็นสถานที่นำยาเสพติดที่ลำเลียงใส่ตู้ลำโพงมาจากภาคเหนือ ถ่ายออก แล้วใช้เครื่องจักรกลหนัก ตัดผ่ามอเตอร์ไฟฟ้าออกให้มีช่องว่างตรงกลางนำยาเสพติดใส่เข้าไปแล้วประกอบเข้าไปใหม่ จากนั้นนำมอร์เตอร์ไฟฟ้าส่งต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้เช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จ.ภูเก็ต และ จ.สุราษฎร์ธานี ผ่านบริษัทรับขนส่งสินค้า ตรวจพบใบเสร็จค่าฝากส่งจำนวนมากตั้งแต่ปี 2555 ถือว่าเป็นเครือข่ายใหญ่มาก มีขั้นตอนลำเลียงยาเสพติดที่ยากต่อการสืบสวน ใช้ระบบขนส่งสินค้าเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังพบของกลางได้แก่ บันทึกหมายเลขบัญชีธนาคารที่ใช้โอนเงินหลายบัญชี ปืนลูกซองยาว 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน ปืนยาวขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน ตู้เซฟ 2 ใบ ยังไม่ได้เปิด เครื่องคอมพิวเตอร์พีซี 1 เครื่อง ตู้ลำโพง 20 ตู้ มอเตอร์ไฟฟ้า 10 ตัว ปั๊มน้ำ 4 ตัว รถฮอนด้า แจ๊ส สีแดง ทะเบียน ฆจ 6269 กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กำลังอีกส่วนหนึ่ง ไปตรวจค้นห้องของนายวริศนนท์ เริงกมล ที่คอนโดมิเนียมชื่อนนทรีพาร์ควิว เลขที่ 88/33 หมู่ 3 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และห้องพักอื่นที่ได้เช่าไว้รวม 4 ห้อง ผลการตรวจค้นพบยาบ้า 137,340 เม็ด ยาไอซ์ประมาณ 640 กรัม เงินสด 2,300,000 บาท สร้อยคอทองคำ 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำ 1 เส้น ปืนยาว 3 กระบอก ปืนสั้น 1 กระบอก เครื่องกระสุนขนาดต่างๆ 460 นัด ตู้เซฟ 2 ใบที่ยังเปิดไม่ได้ ตู้เซฟเปล่าจำนวน 2 ใบ เปิดทิ้งไว้ รถยนต์ 1 คัน รถยนต์กระบะ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน บันทึกหมายเลขบัญชีธนาคารที่ใช้ในการโอนเงินหลายบัญชี เคมีภัณฑ์สำหรับผลิตยาบ้า 5 รายการ
อีกคดี พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. แถลงข่าว พล.ต.ต.ไชยา รุจจนเวช ผบก.บก.ปส.1 บช.ปส. ร่วมกับตำรวจเนเธอร์แลนด์จับกุมนายวิวัฒน์ ยังถาวรตระกูล อายุ 58 ปี สัญชาติไทย นายธนชัย รุ่งนภาเวทย์ อายุ 66 ปี สัญชาติไทย นายศิวกร บรรจงลิขิต อายุ 52 ปี สัญชาติไทย น.ส.เช้า ซอ อายุ 47 ปี สัญชาติพม่า และนายยิบ ฮอน ฮง อายุ 52 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาบุคคลข้อหาร่วมกันมีและส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 4 (ซาฟรอล) เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อัตราโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท หากมีน้ำหนักตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไปต้องระวางโทษจำคุก 1 ปีถึง 15 ปี และปรับ 1 แสนบาทถึง 1.5 ล้านบาท สำนักงาน ป.ป.ส.ได้อนุมัติให้จับกุมฐานความผิดตามมาตรา 8 แห่ง พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ผู้ใดสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ท.ชัยวัฒน์กล่าวอีกว่า เมื่อต้นปี 2556 บช.ปส. กรมสอบสวนคดีพิเศษ และตำรวจประเทศเนเธอร์แลนด์ ร่วมกันสืบสวนขบวนการลักลอบส่งสารตั้งต้นประเภทน้ำมันหอมระเหย หรือซาฟรอล (Salfrole oil) ที่ใช้ผลิตยาเสพติดประเภทยาอี หรือ Ecstacy จำนวนมากไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ การสืบสวนพบว่า ขบวนการดังกล่าวลักลอบส่งสารซาฟรอลที่บรรจุในภาชนะชนิดเดียวกับน้ำมันพืชเพื่ออำพรางรวมไปในตู้สินค้า ปลายทางคือ เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีผู้ต้องหาทั้ง 5 คนเกี่ยวข้อง จึงประสานความร่วมมือกับตำรวจประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อทำลายแหล่งผลิตยาเสพติดในประเทศเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ตำรวจเนเธอร์แลนด์ตรวจค้นและยึดสารตั้งต้น (ซาฟรอล) ได้ 671 ถัง น้ำหนักประมาณ 12,078 กก. บรรจุรวมอยู่กับน้ำมันพืชยี่ห้อโอลีนในตู้คอนเทนเนอร์ หากไม่ถูกตรวจพบและยึดไว้ได้ จะถูกนำไปใช้ผลิตเป็นยาเสพติด (ยาอี) ส่งจำหน่ายทั่วโลก ส่วนหนึ่งจะส่งกลับมาจำหน่ายในประเทศไทยด้วย สำหรับซาฟรอลที่ยึดได้ทั้งหมดนำไปผลิตเป็นยาอีได้ประมาณ 2 ล้านเม็ด

ส่วนคดีตำรวจศูนย์ต่อสู้ป้องกันเพื่อเอาชนะยาเสพติดภาค 2 (ศพส.ภ.2) ไล่ยิงถล่มรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค  ขณะเข้าจับกุมยาเสพติดจนเกิดยิงต่อสู้กันเป็นเหตุให้ น.ส.สุนิสา หรือนุ่น ดอกเดื่อ อายุ 23 ปี นิสิตคณะรัฐศาสตร์ ปี  2  มหาวิทยาลัยบูรพา ถูกกระสุนยิงเสียชีวิตคารถ ส่วนนายสันติสุข ยินดีสุข อายุ 28 ปี แฟนของผู้ตายและเป็นคนขับกับเพื่อนในรถอีกคนหลบหนีไปได้  ต่อมา  ส.ต.อ.สุริยันต์  นิลมาตร์ กับ ส.ต.อ.วัฒนา หนูน้อย สังกัดศูนย์ ศพส.ภ.2 เข้ามอบตัวที่  สภ.เสม็ด  ยืนยันเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าจับกุมยาเสพติด  แต่ถูกคนในรถยิงใส่แล้วพยายามหลบหนี

ความคืบหน้าเวลา  14.30  น. วันที่ 1 ส.ค. ทนายส่วนตัวได้พานายสันติสุข ยินดีสุข อายุ 28 ปี อยู่เลขที่ 160/136 หมู่บ้านเมืองใหม่วิลล่า ซอย  6 หมู่ 3 ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี คนขับรถยนต์ฮอนด้าคันเกิดเหตุ และนายอารักษ์ หาญนที อายุ 31 ปี เพื่อนอีกคนอยู่ในรถเกิดเหตุและหลบหนีไป  เข้าพบ  พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์  ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พร้อมให้การว่า วันเกิดเหตุขับรถพร้อมนายอารักษ์ไปรับ  น.ส.สุนิสา ดอกเดื่อ  ผู้ตาย ที่หอพักเพื่อจะไปงานศพญาติ  กระทั่งผ่านหน้าร้านติ่งคาราโอเกะจุดเกิดเหตุ  น.ส.สุนิสาบอกให้จอดข้างทางอ้างว่าจะมีเพื่อนมาหา 

นายสันติสุขกล่าวอีกว่า  พอจอดรถชิดทางเท้ามีรถกระบะสีดำขับมาจอดปาดหน้า และมีชาย 2 คนเปิดประตูลงมาพร้อมชักปืนจ่อมาที่รถแล้วยิงใส่ทันที  ตนตกใจเลยเข้าเกียร์ถอยหลังไปชนรถกระบะของชาวบ้านที่จอดอยู่ด้านหลัง  ขณะกำลังขับรถหนี น.ส.สุนิสาฟุบมาทางตน  ตอนนั้นยังไม่รู้ว่า  น.ส.สุนิสาถูกยิง  แต่ตกใจมากพยายามขับรถหนีตายอย่างเดียว โดยชายฉกรรจ์ 2 คนยังขับรถกระบะตามไล่ยิงตลอดทาง  จนมาถึงซอยเจเจมินิมาร์ทรถวิ่งต่อไม่ได้เนื่องจากยางล้อหน้าแตกทั้ง  2  ล้อ และล้อหลังซ้ายอีก  1  ล้อ จึงเปิดประตูรถวิ่งหนีไปเรียก  จยย.รับจ้างไปส่งลงที่ตึกคอม  ถนนสุขุมวิท หมู่  1  ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี ก่อนขึ้นรถตู้เข้ากรุงเทพฯทันที และมารู้จากข่าวทีหลังว่า  น.ส.สุนิสาถูกยิงเสียชีวิต “ผมขอยืนยันว่าผมกับเพื่อนไม่มีปืนและไม่ได้ขายยา” นายสันติสุขกล่าว

ต่อมา พล.ต.ต.คัชชาแถลงกับผู้สื่อข่าวว่า นายสันติสุขกับนายอารักษ์เข้าพบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ  ปฏิเสธข้อกล่าวหาขายยาเสพติด  และยิงปืนใส่ตำรวจก่อน ไม่ใช่เป็นการมอบตัว  จึงแนะนำให้ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ตนกำชับพนักงานสอบสวน  สภ.เสม็ด ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย จากนั้นทนายความได้พาทั้ง  2 ไปพบพนักงานสอบสวน  สภ.เสม็ด โดย พ.ต.อ.กิตติพัฒน์ พงษ์พนัส ผกก.สภ.เสม็ด ได้เชิญทั้ง  3  เข้าไปพูดคุยในห้องทำงาน  ก่อนส่งตัวให้  พ.ต.ท.ตรีเพชร ชลชีวศรานนท์ พงส.ผนพ. สอบปากคำ

หลังจากนั้น พ.ต.ท.ตรีเพชร เปิดเผยว่า ทั้ง 2 คน มาพบในฐานะพยานให้ถ้อยคำถึงเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุและปฏิเสธกรณีที่ตำรวจกล่าวหาว่าขายยาเสพติดและใช้ปืนยิงก่อน จึงยังไม่ได้แจ้งข้อหาอะไร หลังให้ถ้อยคำเสร็จจึงให้กลับบ้าน เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน หากรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จ ปรากฏว่าทั้ง 2 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่อซื้อยาเสพติดตามที่ตำรวจกล่าวหาจะเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวอีกครั้ง

สายวันเดียวกัน นายคมสัน เอกชัย ผวจ.ชลบุรี พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี แถลงข่าวตำรวจ สภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จับกุมนายไพโรจน์ หรือบอย พานเรือง อายุ 33 ปี อยู่เลขที่ 38/2 หมู่ 1 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายจีรวัฒน์ หรือทอป ประทุมธง อายุ 26 ปี นายธวัชชัย ศรีแก้ว อายุ 24 ปี นายสังวาล หรือหน่อย คล้ายแจ้ง อายุ 37 ปี นายธนศักดิ์ หรือแดง จันทร์ผักมะดัน อายุ 28 ปี และนายคมสันต์ หรือโจ้ งามสันเทียะ อายุ 24 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 135,519 เม็ดและยาไอซ์ 23.30 กรัม

พล.ต.ต.คัชชากล่าวว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นเครือข่ายที่มาจากเรือนจำแห่งหนึ่งและเป็นผลงานของตำรวจสายตรวจนำโดย ร.ต.อ.ฐานุวัฒน์ โฆษิตดิษฐวัฒน์ รอง สวป.สภ.หนองขาม ที่เฝ้าจับตาดูนายไพโรจน์ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจนจับกุมตัวได้ ค้นบ้านได้ของกลางจำนวนมาก หลังแถลงข่าวเสร็จ พ.ต.อ.คมสันต์ โยธคล ผกก.สภ.หนองขาม พร้อมกำลังคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.หนองขามต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น