วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Pic_352136
Isuzu ชวนสื่อมวลชนขับรถ All New Isuzu D-MAX 11 คัน จากสุราษฎร์ธานีไประนองบนระยะทางกว่า 200 กม. เพื่อค้นหาเพชรเม็ดงามกลางทะเลอันดามันที่มีชื่อว่า “เกาะพยาม” แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งเปล่งประกายความงามในหมู่คน ที่รักจะใช้ชีวิตแบบสงบท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่า ทะเลสีฟ้า และหาดทรายขาวละเอียด...

หลังจากบินฉิวออกจากกรุงเทพฯ เพื่อตรงไปรับรถ All New Isuzu D-MAX ที่จอดรออยู่ในห้างหุ้นส่วนจำกัด อีซูซุสุราษฎร์ธานี พร้อมกับสะสมเสบียงเต็มรถเป็นที่เรียบร้อย ขบวนคาราวาน Isuzu ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ อำเภอหลังสวนในจังหวัดชุมพร ขับยาวต่อไปถึงอำเภอพะโต๊ะ เพื่อตัดเข้าอำเภอเมือง จังหวัดระนอง ซึ่งเป็นเส้นทางคดเคี้ยวและลัดเลาะเขาไปตลอดทาง แต่ด้วยสมรรถนะการเกาะถนนและขับสนุกในทุกเส้นทางของรถ All New Isuzu D-MAX หลากรุ่นทำให้รถทุกคันสามารถขับได้อย่างสบายใจและปลอดภัย ถึงจุดหมายแรกที่ร้านอาหารเคียงเลที่ไม่เพียงมีอาหารอร่อยลิ้นเท่านั้น แต่ยังมีอาหารตาเป็นวิวทะเลงามๆ ของจังหวัดระนองให้ชมอีกด้วย 

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ISUZU สนับสนุนการแข่งขัน “ไทยไฟท์คาดเชือก”

ISUZU สนับสนุนการแข่งขัน “ไทยไฟท์คาดเชือก” คืนชีพมวยไทยในตำนาน 

อีซูซุสนับสนุนการแข่งขัน “ไทยไฟท์คาดเชือก” คืนชีพมวยไทยในตำนาน

อีซูซุ ยืนหยัดสานต่อโครงการ “รักษ์ชาติ...รักมวยไทย” ต่อยอดการแข่งขันมวยไทยระดับโลก “THAI FIGHT” ให้ยิ่งใหญ่ ด้วยการร่วมการแข่งขันมวยไทยรูปแบบใหม่ “THAI FIGHT KARD CHUEK” (ไทยไฟท์คาดเชือก) พลิกฟื้นตำนานมวยไทยคาดเชือกอันน่าเกรงขามในอดีต พร้อมพาสื่อมวลชนตะลุยสวนสามพราน จังหวัดนครปฐม สถานที่ถ่ายทำและเก็บตัวนักมวยไทย 32 คนจากนานาประเทศ ที่มาร่วมดำเนินชีวิต ฝึกซ้อมมวยไทย และเรียนรู้วัฒนธรรมไทย เพื่อฝ่าด่านสู่รอบชิงชนะเลิศบนเวทีเกียรติยศเดียวกับ “THAI FIGHT” ปลายปีนี้ 

คุณปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส กล่าวว่า “อีซูซุภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันมวยไทยระดับโลก “THAI FIGHT” จนทำให้มวยไทยได้รับความนิยมในหมู่แฟนมวยทุกรุ่นทุกวัยอย่างแพร่หลาย และในปีนี้ “THAI FIGHT” ยังได้สร้างสรรค์กิจกรรมการแข่งขันมวยไทยรูปแบบใหม่ในชื่อ “ไทยไฟท์คาดเชือก” ซึ่งเป็นมวยไทยที่ใช้เชือกพันหรือคาดที่มือแทนการสวมนวม ส่งผลให้หมัดกลายเป็นอาวุธที่อันตรายมาก มวยไทยคาดเชือกนั้นได้ถูกยกเลิกไปในสมัยรัชกาลที่ 7 ครั้งนี้จึงถือเป็นการนำศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมกลับมาทำให้ชาวไทยและชาวโลกได้รู้จักอีกครั้ง 

นอกจากเกมการแข่งขันอันดุเดือด การฝึกซ้อม การใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างนักมวยไทยนานาชาติ 32 คนที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ทีม คือทีมขาวและทีมดำแล้ว นักมวยทุกคนจะได้เรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมไทยหลายแขนงที่จะสอดแทรกอยู่ในช่วงต่างๆของรายการ เช่น การปรุงอาหารไทยจากวัตถุดิบพื้นบ้าน การทำเครื่องปั้นดินเผา การจักสาน การทำลูกประคบ เป็นต้น 

คู่ชิงชนะเลิศของ“ไทยไฟท์คาดเชือก” จะขึ้นฟาดแข้งบนเวทีเดียวกับ “THAI FIGHT” ในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งผู้ชนะเลิศจะได้รับรถปิกอัพ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท อีซูซุหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายการ “ไทยไฟท์คาดเชือก” ในรูปแบบที่ทันสมัยเร้าใจ เต็มเปี่ยมไปด้วยสาระความรู้ จะพลิกฟื้นตำนาน “มวยไทยคาดเชือก”อันเลื่องลือในอดีตให้เป็นที่ประทับใจคนไทยทั้งชาติอีกครั้ง” 

บรรยากาศการเยี่ยมชมสวนสามพราน สถานที่เก็บตัวและถ่ายทำรายการ “ไทยไฟท์คาดเชือก” ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคุณนพรัตน์ พุทธรัตนมณี ผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการ บริษัท สปอร์ต อาร์ต จำกัด พร้อมตัวแทนนักมวยไทย “สุดสาคร ส.กลิ่นมี” และ “ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง วินดี้สปอร์ต” ที่มาเล่าเรื่องราวโหด มัน ฮาตลอดเวลาที่เก็บตัวอยู่ร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมงของนักมวยไทยต่างชาติต่างภาษาถึง 32 คน ก่อนพาสื่อมวลชนชมการเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมในหมู่บ้านไทย ประเดิมด้วยการโชว์ปั้นเครื่องปั้นดินเผาของไทรโยค ต่อด้วยการจักสานปลาตะเพียนด้วยใบจากของสุดสาคร จากนั้นพาแวะเยี่ยมบ้านทรงไทยริมน้ำซึ่งเป็นบ้านพักของนักมวยไทยทั้ง 2 ทีม ชมการฝึกซ้อมและสาธิตการคาดเชือกโดยครูมวยมืออาชีพ ปิดท้ายกับโชว์การลงนวมแบบสดๆ ระหว่าง สุดสาคร ส.กลิ่นมี และ ซอร์ ทัน แชมป์มวยไทยจากประเทศพม่า 

“THAI FIGHT KARD CHUEK” (ไทยไฟท์คาดเชือก) เป็นแข่งขันแบบมวยไทยโบราณ ชกจริง เจ็บจริง ไม่มีการใส่นวม โดยมีนักมวยไทยจากนานาชาติเข้าร่วมจำนวน 32 คน ในรุ่นจูเนียร์ มิดเดิลเวท พิกัด 70 กิโลกรัม แบ่งออกเป็น 2 ทีมๆ ละ 16 คน นำทีมโดย “สุดสาคร ส.กลิ่นมี” นักชกรูปหล่ออารมณ์ดีตัวแทนนักชกไทยจากทีมดำ และ “ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง วินดี้สปอร์ต” นักชกพันธุ์อึดตัวแทนนักชกไทยจากทีมขาว พร้อม 2 พี่เลี้ยงประจำบ้านดีกรีแชมป์มวยระดับประเทศ ได้แก่ สมรักษ์ คำสิงห์(ทีมดำ) และ สมจิตร จงจอหอ(ทีมขาว) มาดำเนินชีวิตร่วมกันพร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย ศึกษาตำรามวยไทยโบราณจากครูมวยที่มีชื่อเสียง พร้อมดารานักแสดงรับเชิญสลับสับเปลี่ยนมาสร้างสีสันความสนุกสนาน อีกทั้งสร้างสรรค์เกมการละเล่นแบบไทยๆ ให้ร่วมแข่งขันเพื่อเก็บคะแนน นักมวยที่มีคะแนนเหนือกว่าจะได้รับสิทธิ์เลือกคู่ชกจากบ้านฝ่ายตรงข้ามมาประลองฝีมือเพียง 3 ยกบนเวทีคาดเชือก คนใดแพ้คัดออกทันที จนเหลือเพียง 2 ยอดนักสู้ที่จะก้าวผ่านเข้าสู่เวทีเกียรติยศ “ไทยไฟท์คาดเชือก” รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ร่วมกับศึกมวยไทยระดับโลก “THAI FIGHT” ในช่วงปลายปีนี้ โดยผู้ชนะคว้าแชมป์ “ไทยไฟท์คาดเชือก” ประจำปี 2013 จะได้รับรางวัลชนะเลิศรถปิกอัพ “ออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์” และรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท 

ร่วมอนุรักษ์มวยไทยคาดเชือกได้ในรายการแข่งขันมวยไทยรูปแบบใหม่ “THAI FIGHT KARD CHUEK” (ไทยไฟท์คาดเชือก) เป็นประจำทุกวันเสาร์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เวลา 15.30 - 17.00 น. เริ่มเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม ศกนี้เป็นต้นไป

วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สนุกสุดมันส์ กับ “All New ISUZU D-MAX X-Series”

สนุกสุดมันส์ กับ “All New ISUZU D-MAX X-Series” 

ถ้าตารางชีวิตแน่นเอี๊ยดตลอดสัปดาห์ มีเวลาเที่ยวได้ 1 วัน… จะไปไหน ? อีซูซุตอบโจทย์ชีวิตวัยมัน ด้วยทริปแนะนำกิจกรรมสำหรับหนุ่ม – สาวสไตล์เอ็กซ์ กับ “ออล – นิว อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์” ปิกอัพที่ตอบรับกับจังหวะชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งของคนรุ่นใหม่ และภารกิจเช็คอินสถานที่กิน…เที่ยว สุดฮิต เสมือนเป็นการชาร์จแบตให้ร่างกายได้สดชื่นภายใน 1 วัน

ถึงเวลาเช็คอิน อีซูซุพายกก๊วนขับ “ออล – นิว อีซูซุดีแมคซ์ เอ็กซ์-ซีรี่ส์” สุดเท่ สะกดทุกสายตาไปอัพเดทสเตตัส จัดหนักกันที่ร้านแรกกับ “พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ” หรือ ร้านก๋วยเตี๋ยวโคตรเครื่องชื่อดังย่านประชาสงเคราะห์ ด้วยคอนเซ็ปเมนูดัง แปลก…ใหม่…ใหญ่มาก จุดเด่นมีดีที่ชามไซส์ยักษ์ ขนาด 15 คนต่อชามยังรับประทานกันไม่หมด ขอแนะนำก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟต้มยำ – โคตรเครื่อง สนธิราคาที่ 800 บาท คัดสรรสารพัดส่วนประกอบชั้นดี อาทิ เนื้อปลาแซลมอนชิ้นโต, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, กุ้งสดตัวโต วางเรียงอย่างสวยงาม ปรุงรสด้วยน้ำเย็นตาโฟต้มยำแสนกลมกล่อม เวลาทานที่ร้านจะเสิร์ฟเส้นก๋วยเตี๋ยวแยกต่างหาก หากก๊วนไหนที่ไปกันน้อยทางร้านก็มีก๋วยเตี๋ยวหลายไซส์ให้ได้เลือก เปิดบริการความอร่อยท้าให้ไปลองทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 10.30 – 21.30 น. ร้านนี้ ISUZU ขอบอกอย่างเดียวว่าไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก แค่เตรียมใจมาปะทะกับก๋วยเตี๋ยวไซส์ยักษ์อย่างเดียวเป็นพอ
อิ่มท้องแล้วก็ถึงเวลามาเอ็กเซอร์ไซส์กันต่อที่ “คงสิทธา มวยไทย” ฟิตเนสเซ็นเตอร์แนวใหม่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬามวยไทย บริหารงานโดย “แมทธิว ดีน” ที่สะสมความชอบส่วนตัวมาลงทุนร่วมกับหุ้นส่วน ด้วยใจที่มุ่งมั่นจะแตกแขนงกีฬามวยไทยให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ โดยเน้นเรื่องความเหมาะสมในการออกกำลังกายเฉพาะบุคคล และฟื้นฟูกล้ามเนื้อเพื่อความแข็งแรง นอกจากนี้ยังได้เทคนิคการป้องกันตัวติดปลายนวมมาเป็นของแถมอีกด้วย คงสิทธา มวยไทย เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. สนใจสอบถามเส้นทาง และอัตราค่าบริการได้ที่ www.contact@khongsittha.com

จากนั้นอีซูซุขอเช็คอินต่อกับร้านนั่งเล่นสไตล์ชิลๆ ที่ “เดอะ บุ๊ค ช้อป” (The Book Shop) บริเวณชั้น G แอชตันคอนโด ในซอยสุขุมวิท 38 ร้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องเมนูค็อกเทลสมุนไพร และกาแฟรสเลิศ ที่ดัดแปลงส่วนผสมให้มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร แต่ลงตัวด้วยรสชาติหอมกรุ่น นุ่มละไมลิ้น จนชวนให้ต้องสั่งเพิ่ม ผนวกกับการตกแต่งร้านที่ออกแบบโดยสถาปนิกชั้นนำ “Ash Sutton” ที่หยิบยกมุมมองของห้องสมุดสุดคลาสสิค มาพรีเซ็นท์ในแนวแฟนตาซี เก๋ไก๋ด้วยโมบายหนังสือที่เพิ่มลูกเล่นให้ขยับเลื่อนขึ้น – ลงได้ราวต้องมนต์มหัศจรรย์ และถ้ายิ่งได้ “Virgin Bookmark” ค็อกเทลแตงโมสมุนไพร ไฮไลท์เด่นประจำร้านมาดื่มด้วยนั้นจะยิ่งชวนให้บรรยากาศเพลิดเพลินขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

ตามติดด้วยการอัพสเตตัสสุดท้ายประจำทริป ที่ “เบอร์เกอร์ แฟคทอรี่” (Burger Factory) ร้านเบอร์เกอร์โฮมเมดสไตล์อเมริกันแท้ๆ ที่คัดสรรแต่วัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม มาปรุงแต่งแต่ละเมนูให้น่ารับประทาน และเพื่อให้เห็นทุกขั้นตอนพิถีพิถัน ครัวของร้านยังถูกออกแบบให้เป็นครัวเปิด สอดรับกับธีมการตกแต่งแบบโมเดิร์นคลาสสิค ได้อย่างลงตัว สำหรับใครที่นิยมแวะเวียนไปในย่านเอกมัยร้านคงคุ้นตากันอยู่ไม่น้อย เพราะร้าน “เบอร์เกอร์ แฟคทอรี่” ตั้งอยู่ในโครงการเอกมัยช้อปปิ้งมอลล์ ซอยสุขุมวิท 63 เปิดบริการความอร่อยทุกวัน เวลา 11.30 – 22.00 และพิเศษทุกศุกร์ – เสาร์ ทางร้านขยายเวลาเสริฟความอร่อยถึงเที่ยงคืนกันไปเลย

วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ISUZU คาราวานสัญจรเส้นทางที่ 2 ล่องใต้

ISUZU คาราวานสัญจรเส้นทางที่ 2 ล่องใต้


บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดกิจกรรม “อีซูซุคาราวานสัญจร” ประจำปี 2556 เส้นทางที่ 2 จากอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี มุ่งหน้าสู่จังหวัดชุมพร รวมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร ดื่มด่ำบรรยากาศทะเลใต้ และสัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ในรูปแบบขบวนคาราวานท่องเที่ยวทางรถยนต์

ณ จุดปล่อยขบวนรถ ที่บริษัท อึ้งง่วนไต๋อีซูซุเซลส์ จำกัด สาขาชะอำ สมาชิกประชาคมอีซูซุกว่า 100 ชีวิตต่างทักทายปราศรัยกันดั่งญาติมิตร โดยได้รับเกียรติจาก มร.โก นาคามูระ ผู้จัดการอาวุโส บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด, คุณมณเฑียร ทองนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี, คุณนงนิตย์ เต็งมณีวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยว สำนักงานจังหวัดเพชรบุรี และคุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถอีซูซุจำนวน 36 คัน โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าสู่จุดหมายแรกที่ “อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ” สถานที่ที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของวงการวิทยาศาสตร์ไทย โดยเข้าเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ” แหล่งรวมสัตว์น้ำนานาชนิด สมาชิกทั้งผู้ใหญ่และเด็กต่างตื่นตาตื่นใจ เรียนรู้ความแตกต่างของสัตว์น้ำนานาชนิด ผ่านบิ๊กแท้งค์และอุโมงค์ปลาใต้น้ำขนาดใหญ่ ผลัดเปลี่ยนกันถ่ายภาพอย่างสนุกสนาน จากนั้นจึงเข้าสักการะรูปหล่อองค์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย ณ “อาคารดาราศาสตร์” พร้อมทั้งเก็บเกี่ยวประวัติศาสตร์ความเป็นมาและวงจรแห่งดวงดาวที่ถูกบันทึกไว้ในรูปแบบบันไดเวียนภายในอาคารอย่างเพลิดเพลิน

จากนั้นขบวนรถคาราวานอีซูซุมุ่งหน้าต่อไปยังร้านอาหารหนูโภชนา ลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ ฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งบางเบาริมหาดบ้านกรูด เพิ่มพลังงานทั้งกายและใจ แล้วออกเดินทางขึ้นเขาแบบสบายๆ สู่ “วัดทางสาย” เพื่อร่วมสักการะ “พระพุทธกิตติสิริชัย” องค์พระขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนเขา หรือที่ชาวบ้านแถบนี้เรียกกันว่า “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิแบบศิลปะคันธาระ หันพระพักตร์ออกทะเล หน้าตักกว้าง 5 วา สูง 9 วา ฐานกว้างโดยรอบ 16 วา พร้อมวัดใจเดินเท้าไต่บันไดอีก 300 ขั้นเพื่อสักการะ “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” อันเป็นพระมหาธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ วิจิตรศิลป์

ตระการตาแบบไทยแท้ และเมื่อก้าวถึงยอดเจดีย์ สามารถมองเห็นวิวหาดบ้านกรูดโดยรอบอย่างงดงาม
หลังจากไหว้พระคู่บ้านของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว สมาชิกยังได้ร่วมทำบุญด้วยการร่วมบริจาคเงิน อุปกรณ์การเรียน รวมทั้งอุปกรณ์กีฬาให้แก่เด็กๆ ที่ “โรงเรียนบ้านถ้ำเขาน้อย” โรงเรียนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบ้านกรูด มีเด็กนักเรียน 71 คนศึกษาอยู่ในระดับชั้น ป.1-ป.6 และมีบุคลากรทางการศึกษาเพียง 6 คน ทั้งครูและนักเรียนต่างมีสีหน้าเปื้อนยิ้มแสดงความปลาบปลื้มและยินดีต่อการมาเยือนของคณะคาราวานอีซูซุเป็นอย่างยิ่ง

อิ่มท้อง อิ่มบุญ อิ่มสุขกันแล้ว ขบวนรถคาราวานอีซูซุเดินทางสู่ปากน้ำชุมพร ด้วยระยะทาง 138 กิโลเมตร หรือกว่า 2 ชั่วโมง บนเส้นทางขึ้นลงเนินเป็นระยะๆ บางช่วงขรุขระเพราะมีการปรับแต่งพื้นถนน แต่ด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของช่วงล่างแบบ i-Grip ในออล-นิว อีซูซุดีแมคซ์ ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น จึงทำให้ขบวนคาราวานอีซูซุทุกคันเข้าสู่ที่พักสุดหรูที่โรงแรมโนโวเทลบีช รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ จังหวัดชุมพร โดยพร้อมเพรียง

สำหรับงานเลี้ยงรับรองภาคค่ำ สมาชิกต่างพร้อมหน้ากันมาในชุดฮาวายหลากแบบ สีสันสดใส ร่วมอิ่มอร่อยกับอาหารทะเล ทั้งปูม้าสดๆ กุ้งเน้นๆ ปลาหมึกอวบๆ และอาหารใต้แท้ๆ อิ่มเอมกับการแสดงโชว์ในสไตล์ฮาวาย ที่นักแสดงลงมาแสดงใกล้ๆ รวมทั้งชวนให้สมาชิกได้ร่วมโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนาน สลับสับเปลี่ยนกับเกมการละเล่นบนเวที พร้อมรับรางวัลจากสปอนเซอร์ใจกว้าง อาทิ ตรีเพชรอีซูซุลิซซิ่ง, น้ำมันคาลเท็กซ์เดโล่, ยางบริดจสโตน, นิตยสารเนชั่นแนล จีโอกราฟิก, วีพี ซาวด์ และแบตเตอรี่สปาร์ค กันไปแบบเต็มไม้เต็มมือ ก่อนแยกย้ายไปนอนหลับฝันดี ปิดท้ายคาราวานเส้นทางใต้อย่างสุขใจ

ความสนุกของอีซูซุคาราวานสัญจรยังคงจัดอย่างต่อเนื่องกับอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 3กาฬสินธุ์–บึงกาฬ ระหว่างวันที่ 6–7 กรกฎาคม และเส้นทางที่ 4 เส้นทางต่างประเทศ ไทย–ลาว–เวียดนาม ระหว่างวันที่ 7 – 11 สิงหาคม ศกนี้

บทสัมภาษณ์ของสมาชิกประชาคมอีซูซุ
คุณสิทธิพันธ์ สุขโก ควงคู่ภรรยาสาว คุณวรรณศิริ มาร่วมทริปคาราวานอีซูซุเป็นครั้งแรก บอกว่า “ผมได้ยินจากพี่ๆ ที่รู้จักกันว่ามาคาราวานกับอีซูซุแล้วสนุก อบอุ่น ผมก็เลยชวนแฟนมาครับ สนุกจริงๆ ครับ ผมเพิ่งเคยมาเส้นทางใต้เป็นครั้งแรก ไม่รู้สึกเกร็งเลย สถานที่ท่องเที่ยวก็สวยครับ มีโอกาสผมจะกลับมาเที่ยวอีกครับ ผมอยากชวนเพื่อนๆ มาซื้อรถอีซูซุ จะได้มาเที่ยวกับคาราวานอีซูซุด้วยกันครับ”
คุณลุงวุฒิ หลวงพิทักษ์ ควงภรรยา และเพื่อนรัก พร้อมพกอารมณ์ขันมาร่วมตลอดทริป บอกว่า “มาคาราวานอีซูซุทุกปี ที่บ้านมีรถอีซูซุหลายคัน ซื้อเพราะอยากมาคาราวานอีซูซุนี่แหละ มาแล้วสนุก ได้เจอเพื่อน เหมือนครอบครัวเดียวกัน”
คุณจำเริญ ไล้สุวรรณชาติ นำทีมเพื่อนรักร่วมก๊วน บอกอย่างอารมณ์ดีว่า “พวกเราเป็นเพื่อนกัน เที่ยวด้วยกันตลอด คาราวานอีซูซุไม่เคยพลาดสักปี ปีนี้ก็ไม่พลาด ทีมงานอีซูซุควบคุมคาราวานได้ดี รถก็ดี ภายในก็ออกแบบมาให้สะดวกสบาย เรียกได้ว่า อีซูซุสอบผ่าน”

วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ISUZU เดินหน้าสตาร์ทความสนุกกับคาราวานสัญจรเส้นทางแรกของปี

ISUZU เดินหน้าสตาร์ทความสนุกกับคาราวานสัญจรเส้นทางแรกของปี


บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดงาน “อีซูซุคาราวานสัญจร” ประจำปี 2556 หนึ่งในกิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าอีซูซุ และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ในรูปแบบคาราวาน ที่ประชาคมอีซูซุตั้งตารอคอยเป็นประจำทุกปี ประเดิมความสนุกกับเส้นทางแรกของปี ด้วยเส้นทางจากสระแก้ว ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนด้านตะวันออกตอนบนของประเทศ และไปสิ้นสุดที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยเส้นทางที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจทั้งทางประวัติศาสตร์และทางธรรมชาติ

“อีซูซุคาราวานสัญจร” ประจำปี 2556 เส้นทางที่ 1 สระแก้ว – ฉะเชิงเทรา ได้รับเกียรติจาก มร. วาย. โยชิดะ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมด้วย คุณภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และคุณสานนท์ เพ็งแสง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ (รักษาการแทนท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระแก้ว) ให้เกียรติร่วมเปิดงานและตีธงปล่อยคาราวาน รถอีซูซุ จำนวน 38 คัน ณ บริษัท อีซูซุสระแก้ว จำกัด สาขาอรัญประเทศ โดยขบวนคาราวานอีซูซุออกเดินทางสู่จุดหมายแรก คือ “ปราสาทสด๊กก๊อกธม” ศาสนสถานที่สร้างขึ้นอย่างงดงามตามแบบฉบับของศิลปะเขมรโบราณ ความหมายของคำว่า “สด๊กก๊อกธม” นั้นแปลว่า “เมืองที่มีต้นกกขึ้นรกในหนองน้ำใหญ่” จนเมื่อเราได้ผ่านซุ้มประตูทางเข้าก็ได้พบกับบรรยากาศที่ร่มรื่น แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ และหนองน้ำใหญ่อยู่บริเวณด้านหน้าของปราสาท จากหลักฐานสันนิษฐานว่า “ปราสาทสด๊กก๊อกธม” ได้ถูกสร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 15 เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมตามคติความเชื่อถือในลัทธิศาสนาฮินดู

หลังจากชื่นชมความงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมของปราสาทสด๊กก๊อกธมกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ขบวนรถอีซูซุคาราวานสัญจรจึงได้เดินทางต่อไปยังสวนรุกขชาติ “เขาฉกรรจ์” ซึ่งเราจะมองเห็นเป็นภูเขาหินปูนเรียงกันอยู่ 3 ลูกในระยะไกล โดยมีเขาฉกรรจ์อยู่ตรงกลางและใหญ่ที่สุด ใช้เป็นสถานที่ปลูกป่า ของกรมป่าไม้ ส่วนเชิงเขาฉกรรจ์เป็นที่ตั้งของวัดถ้ำเขาฉกรรจ์ มีบันไดขึ้นไปถึงยอดเขาที่ทอดยาวท้าทายให้สมาชิกประชาคมอีซูซุเดินขึ้นไปเพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทจำลองที่ประดิษฐานอยู่ ณ ถ้ำเขาทะลุ พร้อมกับมีจุดชมวิวให้สมาชิกได้พักกายและสัมผัสกับทิวทัศน์ที่กว้างไกลสุดสายตาก่อนลงมาทักทาย แถมยังได้ทำความรู้จักและให้อาหารกับเหล่าฝูงลิงจำนวนมากอย่างสนุกสนานอีกด้วย

เมื่อกองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด สมาชิกอีซูซุคาราวานสัญจรก็ต้องรับประทานอาหารฉันนั้น ระหว่างการเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันขบวนคาราวานต้องพบกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก แต่ด้วยสมรรถนะของรถ และช่วงล่างที่ดีเยี่ยมของรถอีซูซุ ทำให้สมาชิกขับขี่ได้อย่างมั่นใจ เราแวะรับประทานอาหารเวียดนาม ณ ร้านยายเต็ม ร้านอร่อยของจังหวัดสระแก้ว ภายในร้านตกแต่งสวยงามในสไตล์เรทโทรสุดชิค เมื่อทุกคนอิ่มท้องก็ได้เวลาเคลื่อนขบวนต่อไปเพื่อร่วมแบ่งปันน้ำใจ บริจาคเงิน อุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬาให้กับน้องๆ ที่โรงเรียนวัดศรีสุตาราม อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ทำเอาสมาชิกอิ่มอกอิ่มใจ และอิ่มบุญกันอย่างถ้วนหน้า ก่อนออกเดินทางสู่โรงแรมซันธารา เวลเนส รีสอร์ท เพื่อร่วมปาร์ตี้มื้อค่ำด้วยบรรยากาศที่แสนครึกครื้น สมาชิกได้ร่วมสนุกกับเกม เพื่อชิงของรางวัลมากมายจากสปอนเซอร์ใจดี อาทิ ตรีเพชรอีซูซุลิซซิ่ง น้ำมันเครื่องคาลเท็กซ์เดโล่ ยางบริดจสโตน นิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟิก วีพี ซาวด์ และแบตเตอรี่สปาร์ค อิ่มอร่อยกับอาหารที่อีซูซุเลือกสรรสำหรับสมาชิกประชาคมอีซูซุโดยเฉพาะ ปิดท้ายค่ำคืนแห่งความสนุกด้วยศิลปินดูโอ้ “ฝันดี-ฝันเด่น จรรยาธนากร” ขึ้นโชว์เพลงฮิตที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคนได้อย่างประทับใจ พร้อมมอบเสียงหัวเราะให้กับสมาชิกประชาคมอีซูซุให้มีความสุขแบบครบรส
สามารถติดตามความสนุกของอีซูซุคาราวานสัญจร กับการเดินทางอีก 3 เส้นทางที่เหลือ คือ เส้นทางที่ 2 ชะอำ (เพชรบุรี) – ชุมพร ระหว่างวันที่ 15 – 16 มิถุนายน เส้นทางที่ 3 กาฬสินธุ์ – บึงกาฬ ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม และเส้นทางที่ 4 เส้นทางต่างประเทศ ไทย – ลาว – เวียดนาม ระหว่างวันที่ 7 – 11 สิงหาคม ศกนี้
ความประทับใจของผู้ร่วมคาราวาน

คุณสมส่วน – คุณจารุวรรณ จรัญวัน รถหมายเลข 01
“กิจกรรมอีซูซุคาราวานสัญจร เป็นกิจกรรมที่จัดได้ดีมากครับ ประทับใจในการบริการ การดูแลลูกค้า รวมถึงโปรแกรมการท่องเที่ยวดีมาก สถานที่เที่ยวก็สวยงาม ที่พัก และอาหารการกินก็ดูแลอย่างดี สำหรับรถอีซูซุผมชอบในสมรรถนะของรถประหยัดน้ำมัน และปลอดภัยเมื่อใช้งาน ดูได้จากการเดินทางในวันนี้ที่เราเจอฝนตกหนักตลอดทาง แต่การเดินทางด้วยรถอีซูซุก็มีแต่ความปลอดภัยยอดเยี่ยม เกาะถนนเป็นเลิศ อยากเชิญชวนให้ผู้ใช้รถอีซูซุมาร่วมกิจกรรมกันเยอะๆ ครับ”

คุณเจสดา ดายงค์ – คุณกรรณิกา เฉื่อยกลาง รถหมายเลข 04
“ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่มีโอกาสได้มาร่วมอีซูซุคาราวานสัญจร ประทับใจในการเดินทางของขบวนคาราวานที่เน้นถึงความปลอดภัยเป็นหลัก สำหรับรถอีซูซุเป็นรถที่ประหยัดน้ำมัน สมรรถนะดีเยี่ยม ระบบช่วงล่างและเกาะถนนดีมาก ยิ่งเวลาเข้าโค้ง สามารถขับได้อย่างมั่นใจ และชอบตรงเบาะที่นั่งที่สบาย อยากชวนเพื่อนๆ ให้มาซื้อรถอีซูซุกันเยอะๆ จะได้มาร่วมกิจกรรมดีๆ อย่างนี้ด้วยกัน”

คุณเรืองวิทย์ – คุณตรีกมล วิชชาพิณ และครอบครัว รถหมายเลข 09
“หลังจากที่ใช้รถอีซูซุมาทั้งหมด 4 คัน ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2519 ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของครอบครัวที่ได้มาร่วมสนุกกับอีซูซุคาราวานสัญจร ทราบกิจกรรมจากที่ปรึกษาการขาย และพอเขาได้อธิบายถึงกิจกรรมคร่าวๆ ระหว่างการเดินทางผมเลยตัดสินใจสมัคร พอได้มาร่วมกิจกรรมแล้ว ผมประทับใจมากๆ กิจกรรมคาราวานนนี้ทำให้มีระเบียบในการขับรถมากขึ้น และสถานที่ท่องเที่ยวที่ปราสาทสด๊กก๊อกธมก็มีความสวยงามมากครับ”

มร. เจมส์ – คุณสุปราณี กอดเบอร์ รถหมายเลข 27
“เดินทางมาแล้วกับอีซูซุคาราวานสัญจรมา 10 ปีแล้ว ทั้งเส้นทางในประเทศ และต่างประเทศ สนุกทุกครั้งที่เข้ามาร่วมกิจกรรม ชอบที่ได้เดินทางไปเที่ยวทั่วประเทศ และเดินทางไปกับรถอีซูซุที่มีสมรรถนะแข็งแรง ขับขี่ปลอดภัย ถ้ามีโอกาสก็อยากมาร่วมกิจกรรมแบบนี้ในทุกๆ ปี”

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

อีซูซุ เปิดสมรภูมิ “แชมป์ชนแชมป์”

อีซูซุ เปิดสมรภูมิ “แชมป์ชนแชมป์”

อีซูซุ จับมือกรมการขนส่งทางบก จัดศึกครั้งใหญ่ที่สิงห์รถบรรทุกห้ามพลาด ท้าประลองทักษะ และปะทะฝีมือ ก้าวสู่ความเป็นสุดยอดนักขับรถบรรทุกเมืองไทยใน “อีซูซุ ยอดนักขับมือทอง ประจำปี 2556” ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เพื่อเพิ่มศักยภาพวงการขนส่งเมืองไทยสู่การเตรียมพร้อมบนเวทีการแข่งขัน ระดับสากลในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1.1 ล้านบาท

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก จัดการแข่งขัน “อีซูซุยอดนักขับมือทอง ประจำปี 2556” ประลองความเป็นหนึ่งสู่สุดยอดนักขับรถบรรทุกเมืองไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพการขับขี่ให้แก่นักขับรถบรรทุก พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์วงการขนส่งเมืองไทย ด้วยการแข่งขันประชันทักษะการควบคุมรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยใช้ “อีซูซุ ซูเปอร์ทรัค ซูเปอร์คอมมอนเรล” มาตรฐานยูโร 3 รวม 2 ประเภท ได้แก่รถหัวลาก และรถสิบล้อลากพ่วง โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบคัดเลือกและรอบชิงชนะเลิศ โดยผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันจะต้องผ่านด่านการทดสอบทั้งในภาคทฤษฎีและ ปฏิบัติ โดยในภาคทฤษฎีจะเป็นการทดสอบกฎจราจร วินัย มารยาท และจิตวิทยา ส่วนภาคปฏิบัตินั้นเป็นการเน้นทักษะการบังคับรถบนสนามทดสอบในสถานีต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ การขับรถสลาลม การกลับรถรูปตัวที การขับรถในพื้นที่แคบ การขับรถและจอดรถให้ตรงจุด เป็นต้น
การ แข่งขันรอบคัดเลือกระดับภูมิภาค ผู้ชนะเลิศและรองชนะเลิศอันดับที่ 1-4 จะได้รับรางวัลเงินสด 10,000, 8,000, 6,000, 4,000 และ 3,000 บาทตามลำดับ และยังได้รับสิทธิเข้าร่วมการชิงชัยในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศอีกครั้ง ประเภทละ 5 คน รวมทั้งสิ้น 50 คน ส่วนเจ้าของกิจการของพนักงานขับรถที่ได้รับรางวัลในรอบคัดเลือกจะได้รับ รางวัลบัตรกำนัลอีซูซุมูลค่า 10,000, 8,000, 6,000, 4,000 และ 3,000 บาทตามลำดับอีกด้วย สำหรับกำหนดการจัดการแข่งขันรอบคัดเลือกในจังหวัดต่าง ๆ รวม 5 ครั้งทั่วประเทศ มีดังนี้

- สนามบินน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน 2556
- ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร จังหวัดนครศรีธรรมราช วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2556
- ลานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน 2556
- ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี วันเสาร์ที่ 6 – วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2556

สำหรับ รอบชิงชนะเลิศกำหนดจัดการแข่งขันในวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม ศกนี้ ณ สนามทดสอบไทยบริดจสโตน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับรางวัลเงินสด 100,000 บาท รองชนะเลิศได้รับรางวัลเงินสด 50,000 และ 30,000 บาทตามลำดับ พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศจากอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ส่วนเจ้าของกิจการที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ และรองชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับรางวัลบัตรกำนัลอีซูซุมูลค่า 20,000 บาท
สิงห์ รถบรรทุกและเจ้าของกิจการทั่วประเทศที่สนใจร่วมประลองความเป็นหนึ่งสู่สุด ยอดนักขับรถบรรทุกอีซูซุ ติดต่อสอบถามรายละเอียดการสมัครแข่งขัน “อีซูซุยอดนักขับมือทอง 2556” ได้ที่ โทร.0-2966-2111, 0-2966-2222 ต่อฝ่ายสื่อสารการตลาด หรือสายด่วนอีซูซุลูกค้าสัมพันธ์ โทร.0-2966-2121 ต่างจังหวัด (โทรฟรี) โทร. 1-800-251-318

อีซูซุ ชูรถบรรทุกอัจฉริยะ “มิมาโมริ” ลุยโลจิสติกส์ ต้อนรับ AEC

อีซูซุ ชูรถบรรทุกอัจฉริยะ “มิมาโมริ” ลุยโลจิสติกส์ ต้อนรับ AEC

อีซูซุตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านรถเพื่อการพาณิชย์ จัดทดสอบรถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะ รุ่น “มิมาโมริ” รอบพิเศษขึ้นสำหรับสื่อมวลชน เพื่อพิสูจน์ให้เห็นศักยภาพของสุดยอดโซลูชั่นสำหรับการขนส่ง เตรียมพร้อมผู้ประกอบการในธุรกิจโลจิสติกส์รับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยระบบจะช่วยพัฒนาพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถให้ดีขึ้นได้จริงและปลอดภัยยิ่งขึ้น ลดต้นทุนน้ำมัน และค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษา จึงถือเป็นการลดต้นทุนทางธุรกิจ และสร้างผลกำไรอย่างแท้จริง

มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในไทยได้ตื่นตัวเป็นอย่างมากกับการเปิดเสรีการค้าในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community : AEC) ในปี พ.ศ.2558 ซึ่งจะผลักดันให้ธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยขยายตัว และมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม ทั้งการขนส่งในประเทศและการขนส่งข้ามประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและเป็นประตูสู่อินโดจีน อีกทั้งปัจจุบันผู้ประกอบการขนส่งต้องเผชิญกับความเข้มงวดในเรื่องพิกัดน้ำหนักของรถบรรทุก รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในวัฏจักรการใช้รถ เช่น ราคาน้ำมัน ค่าบำรุงรักษารถ ค่าแรงและสวัสดิการของพนักงานขับรถ เป็นต้น นอกจากนี้การแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นจากการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการขนส่งของไทย ต้องพัฒนาประสิทธิภาพด้านการขนส่ง และลดต้นทุนด้านต่างๆ ของวัฏจักรการใช้รถ เพื่อผลกำไรที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้นด้วยแนวคิด “อีซูซุ…คู่คิดมืออาชีพ” ที่ยึดมั่นมาโดยตลอด อีซูซุจึงได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และระบบโลจิสติกส์แบบใหม่เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการในการก้าวสู่เวทีการแข่งขันกับประเทศในกลุ่ม AEC อย่างมั่นใจไปพร้อมกับการเพิ่มศักยภาพของระบบการทำงานและเสริมสร้างผลกำไรที่ชัดเจน นั่นคือ “รถบรรทุกอีซูซุ รุ่นมิมาโมริ (MIMAMORI)” รถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะเพื่อการขนส่ง ครั้งแรกในเมืองไทย “มิมาโมริ” เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของอีซูซุ สามารถวิเคราะห์ ทำรายงาน และให้คำแนะนำ เพื่อให้ผู้ขับขี่พัฒนาทักษะการขับรถได้อย่างประหยัดน้ำมันแบบมืออาชีพ ปลอดภัยยิ่งขึ้นทั้งรถและสินค้า และลดต้นทุนการขนส่ง เพิ่มกำไรยิ่งขึ้นอย่างเห็นผล อีซูซุจึงเชื่อว่า “รถบรรทุกอีซูซุ รุ่นมิมาโมริ” จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งในเมืองไทยให้มีโอกาสขยายกำลังการให้บริการที่มีคุณภาพ พร้อมขับเคลื่อนอนาคตเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งอีกด้วย”

การทดสอบรถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะ รุ่น “มิมาโมริ” จัดขึ้น ณ สนามทดสอบรถไทยบริดจสโตน วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา แบ่งออกเป็น 2 สถานี ได้แก่ สถานีขับทดสอบ (Test Drive Station) ซึ่งจัดรถบรรทุกรุ่นต่างๆ ไว้ให้ทดลองขับถึง 4 รุ่น สื่อมวลชนที่ขับทดสอบทุกท่านจะได้รับใบรายงานการวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ โดยระบบ “มิมาโมริ” พร้อมคะแนนประเมินผลการขับ รวมทั้งคำแนะนำในการแก้ไขพฤติกรรมการขับให้ปลอดภัยและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้นในหัวข้อต่างๆ อาทิ การใช้ระดับความเร็ว ระดับการเหยียบคันเร่ง การใช้เบรก การใช้เกียร์ และรอบเครื่องยนต์ในขณะเปลี่ยนเกียร์ เป็นต้น และ สถานีจำลองการใช้งานมิมาโมริ (Mimamori Controller Station) เพื่อสร้างเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของระบบ “มิมาโมริ” โดยมีการแสดงผลการขับขี่บนหน้าจอแบบเรียลไทม์ผ่านระบบสัญลักษณ์ หรือสื่อสารกับผู้ขับขี่ด้วยเสียงหรือข้อความเมื่อมีพฤติกรรมการขับที่ไม่เหมาะสมหรือส่งผลต่ออัตราการประหยัดน้ำมัน เป็นต้น

ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือชั้นกว่าของรถบรรทุกอีซูซุอัจฉริยะ รุ่น “มิมาโมริ” สุดยอดโซลูชั่นสำหรับการขนส่ง นิยามใหม่แห่งความคุ้มค่าทางธุรกิจจากอีซูซุเท่านั้น เป็นมากกว่ารถบรรทุกประหยัดน้ำมัน แต่จะช่วยพัฒนาพนักงานขับรถสู่การขับที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งประหยัดเชื้อเพลิง ปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และช่วยให้สามารถบริหารงานด้านโลจิสติกส์ได้ดียิ่งขึ้น นำไปสู่การลดต้นทุนการบริหารงานขนส่งโดยรวมตลอดอายุการใช้งานของรถ เพื่อผลประกอบการที่ดียิ่งกว่า และโอกาสในการก้าวขึ้นสู่ผู้นำในวงการขนส่งเมืองไทยในอนาคต